Rule of MUAY THAI
กติกามวย

ข้อ ๑๐ ผู้ชี้ขาด
ผู้ชี้ขาดต้องแต่งกายด้วยกางเกงขายาวสีน้ำเงิน หรือสีดำ เสื้อเชิ้ต หรือเสื้อยืดสีน้ำเงิน หรือสีที่สุภาพ ติดเครื่องหมายของคณะกรรมการกีฬามวย และอาจติดเครื่องหมายของสนามมวยต้นสังกัดที่อกเสื้อด้านซ้ายได้ สวมรองเท้าหุ้มข้อสีดำชนิดเบาพื้นเรียบและไม่มีส้น ไม่สวมแว่นตาหรือเครื่องประดับที่เป็นโลหะ เล็บมือตัดเรียบสั้น ไม่ไว้ผมยาวรุงรังและไว้เครา ไว้หนวดได้แต่ต้องไม่ยาวเกินริมฝีปาก

๑๐.๑ หน้าที่ผู้ชี้ขาด

๑๐.๑.๑ ระมัดระวังดูแล และป้องกันนักมวยที่อ่อนแอกว่าไม่ให้ได้รับความ

บอบช้ำเกินควรโดยไม่จำเป็น

๑๐.๑.๒ รักษากติกาและความเป็นธรรมอย่างเคร่งครัด

๑๐.๑.๓ ควบคุมการแข่งขันอย่างใกล้ชิดทุกระยะ

๑๐.๑.๔ ตรวจนวม เครื่องแต่งกาย และฟันยางของนักมวย

๑๐.๑.๕ ต้องใช้คำสั่ง ๓ คำ คือ

”หยุด” เมื่อสั่งให้นักมวยหยุดชก

”แยก” เมื่อสั่งให้นักมวยแยกออกจากกัน กรณีที่ผู้ชี้ขาดสั่ง “แยก” นักมวยทั้ง

สองต้องถอยหลังออกมาอย่างน้อย ๑ ก้าว แล้วจึงชกต่อไป

”ชก” เมื่อสั่งให้นักมวยชก

๑๐.๑.๖ ต้องแสดงสัญญาณที่ถูกต้องเพื่อให้นักมวยที่ทำผิดกติกาทราบถึงความผิด

๑๐.๑.๗ เมื่อมีการทำผิดกติกาจนผู้ชี้ขาดปรับนักมวยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายแพ้

หรือยุติการแข่งขัน หลังจากประกาศให้ผู้ชมทราบแล้วจะต้องแจ้งเหตุผลให้ประธานผู้ตัดสินทราบ

๑๐.๑.๘ ไม่ปล่อยให้นักมวยที่ทำผิดกติกาเป็นฝ่ายได้เปรียบ เช่น จับเชือกเตะ จับเชือกตีเข่า เป็นต้น

๑๐.๑.๙ ต้องไม่กระทำการใดๆที่ให้คุณให้โทษ แก่นักมวยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เช่น

นับช้า -นับเร็ว เตือน –ไม่เตือน เป็นต้น อันมีผลต่อการได้เปรียบหรือเสียเปรียบ

๑๐.๑.๑๐ เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันต้องรวบรวมใบบันทึกคะแนนของผู้ให้คะแนนทั้ง

๓ คน ชี้มุมผู้ชนะตามคะแนนเสียงข้างมาก แล้วชูมือนักมวยผู้ชนะขึ้น ในกรณีเสมอให้ผู้ชี้ขาดชูมือนักมวยทั้งคู่ขึ้นพร้อมกันแล้วนำใบบันทึกคะแนนทั้งหมดให้ประธานผู้ตัดสินตรวจสอบ

๑๐.๑.๑๑ ไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือให้สัมภาษณ์ถึงผลการแข่งขันที่ยังไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแล้ว เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากประธานผู้ตัดสิน

๑๐.๒ อำนาจผู้ชี้ขาด

๑๐.๒.๑ ยุติการแข่งขัน เมื่อเห็นว่านักมวยฝ่ายหนึ่งมีฝีมือเหนือกว่าอีกฝ่ายหนึ่งมาก หรือกระทำอยู่ฝ่ายเดียว

๑๐.๒.๒ ยุติการแข่งขันเมื่อเห็นว่านักมวยบาดเจ็บจนไม่สามารถจะทำการแข่งขัน

ต่อไปได้๑๐.๒.๓ หยุดการแข่งขันเมื่อเห็นว่า นักมวยบาดเจ็บ ผู้ชี้ขาดอาจจะหารือแพทย์สนามก็ได้ เมื่อหารือแล้วผู้ชี้ขาดต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ

๑๐.๒.๔ ยุติการแข่งขันเมื่อเห็นว่า นักมวยไม่แข่งขันกันจริงจัง ในกรณีเช่นนี้ อาจให้นักมวยคนหนึ่งหรือทั้งสองคนออกจากการแข่งขันโดยไม่มีการตัดสิน

๑๐.๒.๕ หยุดการนับเมื่อคู่ชกไม่ยอมไปยังมุมกลางที่ไกลที่สุด หรือออกมาจากมุมก่อนนับครบตามกำหนด

๑๐.๒.๖ หยุดการแข่งขัน เพื่อเตือน ตำหนิโทษนักมวยที่ทำผิดกติกา หรือด้วยเหตุอื่น เพื่อความยุติธรรม หรือเพื่อให้ปฏิบัติตามกติกา

๑๐.๒.๗ สั่งให้นักมวยที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือทำร้าย หรือก้าวร้าวผู้ชี้ขาดปรับให้แพ้ หรือ ไม่มีการตัดสิน

๑๐.๒.๘ สั่งให้พี่เลี้ยงที่ทำผิดกติกาออกจากหน้าที่ หรือปรับให้นักมวยเป็นฝ่ายแพ้ หรือ ไม่มีการตัดสิน ถ้าพี่เลี้ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ชี้ขาด

๑๐.๒.๙ สั่งปรับให้นักมวยที่ทำผิดกติกา อย่างร้ายแรงเป็นฝ่ายแพ้ หรือไม่มีการตัดสินหลังจากการเตือนหรือตำหนิโทษหรือแม้ยังไม่ได้ทำการเตือน หรือตำหนิโทษมาก่อนก็ได้

๑๐.๒.๑๐ การตำหนิโทษผู้ทำผิดติกา ผู้ชี้ขาดต้องสั่งให้นักมวยหยุดการแข่งขันเสียก่อน แล้วจึงตำหนิโทษผู้ทำผิดกติกาอย่างชัดเจน เพื่อให้นักมวยเข้าใจเหตุและความมุ่งหมายของการ ตำหนิโทษนั้น ผู้ชี้ขาดต้องให้สัญญาณมือและชี้ตัวนักมวย ให้ผู้ให้คะแนนทุกคนทราบว่าได้มีการตำหนิโทษ กรณีที่นักมวยถูกตำหนิโทษถึง ๓ ครั้ง ผู้ชี้ขาดต้องสั่งให้นักมวยที่ถูกตำหนิโทษ ถูกปรับให้เป็นฝ่ายแพ้หรือไม่มีการตัดสิน หากเป็นการทำผิดกติกาที่ร้ายแรงผู้ชี้ขาดอาจปรับนักมวยผู้นั้นเป็นฝ่ายแพ้หรือไม่มีการตัดสิน โดยไม่เคยถูกตำหนิโทษมาก่อนก็ได้

๑๐.๒.๑๑ การเตือนผู้ชี้ขาดอาจเตือนนักมวย การเตือนเป็นการให้นักมวยระมัดระวัง หรือป้องกันไม่ให้กระทำในสิ่งที่เป็นการกระทำผิดกติกา

๑๐.๒.๑๒ การนับนักมวยที่ออกนอกสังเวียน

๑๐.๒.๑๒.๑ เมื่อนักมวย ฝ่ายหนึ่ง ถูกคู่แข่งขันกระทำด้วยอาวุธเป็นผลให้ออกนอกสังเวียนให้ผู้ชี้ขาดเริ่มนับ พร้อมกับสั่งให้คู่แข่งขันเข้าไปอยู่มุมกลางที่ไกลที่สุด

๑๐.๒.๑๒.๒ การนับนักมวยตกเวทีให้ผู้ชี้ขาดนับถึงยี่สิบ

๑๐.๒.๑๒.๒.๑ เมื่อนักมวยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายตกจากเวที ให้ผู้ชี้ขาดนับถึงยี่สิบ ถ้านักมวยกลับเข้ามาภายในสังเวียนก่อนการนับถึงยี่สิบ ให้ทำการแข่งขันต่อไปและไม่เสียคะแนน

๑๐.๒.๑๒.๒.๒ เมื่อนักมวยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกจากเวที ถ้าถูกขัดขวางและหน่วงเหนี่ยวจากบุคคลใดๆ ไม่ให้ขึ้นเวที ให้ผู้ชี้ขาดหยุดนับ และตักเตือนให้ชัดเจนแล้วจึงนับต่อไป ถ้าผู้ขัดขวางไม่เชื่อฟัง ให้หยุดการแข่งขันแล้วแจ้งประธานผู้ตัดสิน

๑๐.๒.๑๒.๒.๓ เมื่อนักมวยทั้งสองฝ่ายตกจากเวที ให้ผู้ชี้ขาดเริ่มนับ หากนักมวยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามหน่วงเหนียวให้หยุดการนับและตักเตือนให้ชัดเจน แล้วจึงเริ่มนับต่อถ้านักมวยผู้หน่วงเหนี่ยวไม่เชื่อฟัง ให้ปรับนักมวยผู้นั้นเป็นฝ่ายแพ้ หรือไม่มีการตัดสิน

๑๐.๒.๑๒.๒.๔ ถ้านักมวยทั้งสองฝ่ายตกจากเวที ให้ผู้ชี้ขาดเริ่มนับ เมื่อนักมวยฝ่ายใดกลับเข้ามาภายในสังเวียนก่อนการนับถึงยี่สิบสิ้นสุดลง ให้นักมวยฝ่ายนั้นเป็นผู้ชนะ แต่ถ้านักมวยทั้งสองฝ่ายไม่กลับเข้ามาภายในสังเวียนเมื่อการนับถึงยี่สิบสิ้นสุดลง ให้ตัดสินเป็นเสมอกัน

๑๐.๒.๑๓ ตีความในกติกาที่ใช้บังคับตามข้อเท็จจริง หรือตัดสิน หรือปฏิบัติในเรื่องที่ไม่มีบัญญัติไว้ในกติกา

Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10